Monday, July 2, 2012

ทานาบาตะ... วันของความรักแห่งทางช้างเผือก



วันทานาบาตะ..คือวันแห่งความรักและความ สุขสมหวังของดวงดาว 2 ดวง ดวงแรกมีนามว่า "โอริ ฮิเมะ" และดวงที่สองมีนามว่า "ฮิโกโบชิ" ตามความ เชื่อของคนญี่ปุ่นที่ได้เล่ากันต่อ ๆกันมาว่า ดวงดาวสองดวงนี้ต้อง พลัดพราก จากกันโดยมีทางช้างเผือก หรือที่คนญี่ปุ่นสมัยโบราณตั้งชื่อให้ว่า "อามาโน่ คาวา"
         ตามจินตนาการของคนสมัยโบราณจะมองเห็น ทางช้างเผือกที่มีดวงดาวนับร้อยนับพันดวงมารวมกันเป็นทางยาวนั้นเขามอง เห็นเป็นเหมือน แม่น้ำสายใหญ่และตั้งชื่อให้ว่า "อามาโน่ คาวา"ซึ่งแปลตาม ศัพท์ตรง ๆว่า" แม่น้ำแห่งสวรรค์" และแม่น้ำสายนี้เป็นแม่น้ำสายที่ขวางกั้น ดวงดาวสองดวงให้ต้องพลัดพรากจากกัน แต่ในทุก ๆ ปี ของวันที่ 7 เดือน 7 (กรกฏาคม) ซึ่งเป็นวันที่ทางช้างเผือกจะออกมาปรากฏบนท้องฟ้าของ ประเทศ ญี่ปุ่นให้ได้เห็นกันในทุก ๆปีนั้น..จะเป็นวันที่ดวงดาวสองดวงคือ "โอริ ฮิเมะ" กับ "ฮิโกโบชิ" จะได้มีโอกาสได้มาพบกันสมดังใจที่คิดถึงและปรารถนาของทั้งสอง
         และในวันนี้ก็เป็นวันที่ให้กำเนิดพิธี "ทานาบาตะ" ขึ้นมาคนญี่ปุ่นจะเชื่อถือและเล่ากันต่อ ๆมาสู่ลูก ๆหลาน ๆว่า"ให้ไปตัดต้นไผ่ นำมาปักไว้ในรั้ว บ้าน และให้เขียนคำอธิษฐานใส่กระดาษ นำไปผูกไว้ที่ต้นไผ่ที่ ตัดมา แล้วคำอธิษฐานอันนั้นก็อาจ จะได้ผลสมประสงค์สมดังใจปรารถนาเหมือน ๆ กับ"โอริ ฮิเมะ" และ "ฮิโกโบชิ"ที่ได้สมหวัง และได้พบกันในวันนั้น..
ทำไมคนญี่ปุ่นต้องอธิษฐานขอพรในวันนั้นกันหรือ ? แล้วทำไมจะต้องเอากระดาษคำอธิษฐานไปผูกติดไว้ที่ต้นไผ่ด้วยล่ะ ?
         เมื่อสมัยก่อนในวันที่ 7 เดือน 7 (กรกฏาคม) ของทุก ๆ ปีนั้น จะเป็นวันที่คนญี่ปุ่นจะมีพิธีบูชา " พระแม่คงคา " หรือมีชื่อเฉพาะอีกอย่างว่า " ทานาบาตะซึเมะ " ซึ่งในวันนี้พวกผู้หญิงจะทำการทอผ้า และจะนำไปบวงสรวงหรือเซ่นไหว้ ให้กับแม่คงคา เพื่ออธิษฐานขอให้พระแม่คงคาช่วยคุ้มครองอย่าให้เกิดหรือมีทุพภิกขภัยใด ๆ เกิดกับครอบครัวของพวกเธอในภายภาคหน้ากัน...
         พิธีการและธรรมเนียมการอธิษฐานขอพรทำนองนี้ ก็เกิดมีที่ประเทศจีนเหมือนกันชื่อ " โฮชิ มาซึรี (เทศกาลขอพรจากดวงดาว) " จะทำขึ้นในวันที่ 7 เดือน 7 (กรกฏาคม)ของทุก ๆ ปีเหมือนกับญี่ปุ่น จุดประสงค์ก็คล้าย ๆ กัน จะมีแตกต่างก็นิด หน่อย คือในวันนี้พวกผู้หญิงที่ประเทศจีนจะทำการอธิษฐานขอพรจากดวงดาวเพื่อขอให้ตนนั้น ทำการทอผ้าและเย็บผ้าร้อยเข็มได้เก่ง ๆ กัน...
         เล่ากันต่อ ๆ มาว่าพิธีการและธรรมเนียมการ อธิษฐานขอพร" โฮชิ มาซึรี (เทศการขอพรจากดวงดาว) " ของจีนนี้ ได้ตกทอดมาถึงญี่ปุ่นด้วย และรวมถึงว่าที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นก็ได้พอดีมีพิธีบูชา " พระแม่คงคา(ทานาบาตะซึเมะ) " ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่คล้าย ๆ กันอยู่ ดังนั้นในเวลาต่อมาประมาณในสมัยเอโดะพวกประชาชน พลเมืองทั้งหลาย จึงกำหนดให้มีธรรมเนียมการขอพรจากดวงดาวกันขึ้นมา ด้วยการเขียนคำ อธิษฐานขอพรที่ตัวเองต้องการใส่ลงไปในกระดาษแล้วจะนำไปผูกติดไว้ที่ต้นไผ่นั้นได้กำเนิด เกิดขึ้นและได้ทำสืบเนื่องต่อ ๆ กันมาจนปัจจุบันนี้นั่นเอง ..
                ผู้เขียนคิดว่า เรื่องราวของความ รักแห่งทาง ช้างเผือกนี้ก็ Romantic ดีนะคะ จึงขอนำเรื่องราว และเหตุที่ เป็นที่มาของพิธี "ทานาบาตะ" มา เล่าสู่กันฟังค่ะ..มาเรามาเริ่มเรื่องกันเลยทีนี้...
         กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วที่ฝั่งแม่น้ำด้านเหนือ ของ "อามาโน่ คาวา(ทางช้างเผือก)" บนสวรรค์มีลูกสาวของเทพผู้ครองสวรรค์ นางหนึ่งชื่อว่า "โอริ ฮิเมะ" นางสวยงามและขยันขันแข็งทำงานตัวเป็นเกลียว ไม่ยอมหยุด งานของ "โอริ ฮิเมะ" เป็น หน้าที่ประจำคือ "การทอผ้า" และผ้าที่ "โอริ ฮิเมะ" ทอนั้นก็สวยงามประณีตเป็นที่พึงพอใจของ หมู่เหล่าทวยเทพทั้ง หลายทุกถ้วนหน้า
         และการที่ผ้าที่"โอริ ฮิเมะ"ทอแล้วเป็นที่พึงพอใจ ของหมู่ทวยเทพทั้งหลายนั้น จึงทำให้"โอริ ฮิเมะ" ต้องทอผ้าอยู่ตลอดวันตลอดคืน แต่นางก็ขยัน ขันแข็งไม่เคยหยุดงานทอผ้าของนางเลย..ความที่นางไม่เคยหยุดพัก ผ่อน.
จึงเป็นเพราะการนี้ เทพผู้ครองสวรรค์ผู้เป็นบิดาก็ ให้เป็นห่วงและสงสารธิดามากจึงคิดที่จะให้นางได้มีคู่ครองนางจะได้มีความสุขเล็ก ๆน้อย ๆ บ้าง เทพผู้เป็นบิดาจึงประกาศหาคู่ให้กับ"โอริ ฮิเมะ" แล้วการเลือกคู่ของ"โอริ ฮิเมะ"ก็บังเกิด ขึ้น นาง ถูกตาต้องใจชายหนุ่มที่ชื่อ "ฮิโกโบชิ"มาก ชายหนุ่ม ผู้นี้เป็นคนเลี้ยงวัวอยู่ฝั่ง ด้านใต้ ของ "อามาโน่ คาวา (ทางช้างเผือก)" "ฮิโกโบชิ"เป็นชายหนุ่มที่ขยัน ขันแข็งไม่แพ้ไปจาก"โอริ ฮิเมะ" และที่สำคัญคือชายหนุ่มร่างกายกำยำและ สง่างามเป็นที่สุด..
         "โอริ ฮิเมะ" ถูกตาต้องใจและลุ่มหลงชายหนุ่ม "ฮิโกโบชิ"เป็นอันมาก.."ฮิโกโบชิ"ก็ดูจะถูกใจในตัว"โอริ ฮิเมะ"เหมือนกัน เทพผู้เป็นบิดา เห็น ว่าทั้งสองถูกตาต้องใจกันอย่างนั้น จึงจัดการให้ทั้งสอง ได้แต่งงานกันสมดังใจปรารถนา..
ตามเนื้อเรื่องทุกอย่างฟังแล้วดูเหมือนจะ มีความสุข.. แต่ตรงนี้ก็เกิดปัญหาขึ้นมาเข้าจนได้เพราะเมื่อ "โอริ ฮิเมะ"กับ"ฮิโกโบชิ"ได้แต่งงานกันแล้ว "โอริ ฮิเมะ"ก็ไม่ยอมทำงานทอผ้า ของนางอย่างแต่ก่อน..ทั้งสองจะออกไปเที่ยวด้วยกันทุกวัน ทุกคืน "โอริ ฮิเมะ" มีความสุขมากและลุ่มหลง"ฮิโกโบชิ"จนเหลือคนานับลุ่มหลงจนลืมหน้าที่ และ งานประจำของนาง...ใหม่ ๆเทพผู้เป็นบิดา ก็ให้อภัยมาตลอด
         แต่ยิ่งนานวันเข้า "โอริ ฮิเมะ" ก็ยิ่งหลงระเริงไปกับ ความรักจนลืมหมดทุกสิ่งทุกอย่างเอาแต่ออก ไปเที่ยวกับ"ฮิโกโบชิ" หนักเข้าเทพผู้บิดาจึงเกิด พิโรธจึงลงอาญาสาปให้ทั้ง สองแยกจากกันไปคนละทิศ " ต่อจากนี้ให้แยกเจ้าทั้งสองไปอยู่คน ละฝากฝั่งของ "อามาโน่ คาวา(ทางช้างเผือก)" ให้แยกจากกันไปอยู่แต่คนละทิศ แต่บัดนี้ "

เมื่อ"ฮิโกโบชิ" โดนแยกจากไปแล้ว "โอริ ฮิเมะ" ก็ให้เป็นโศกเศร้าอาดูรที่ต้องพรัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รักนางร่ำอาลัย "ฮิโกโบชิ"ผู้เป็นสามีสุด ที่รัก จนน้ำตาแทบจะเป็นสายเลือด เทพผู้เป็นบิดาเฝ้ามองความเศร้าโศกของนางทุกวันทุกคืน.. เทพผู้เป็นบิดาเห็นอาการ ของนางร้ายแรงแบบนั้นก็ให้เป็นสงสารนางอย่างสุดที่จะทนอยู่ได้ จึงบอก อนุญาตนางว่า "ในทุก ๆปีให้นางข้าม อามาโน่คาวา(ทางช้างเผือก)ไปพบ "ฮิโกโบชิ" ได้หนึ่งครั้ง แล้ววันนั้นก็คือวันที่ 7 เดือน 7 (กรกฏาคม)ของทุก ๆปี
         แล้วจากนั้นมา...ทั้งสองจึงได้เกิดมีความหวัง ว่าจะ ได้พบกันถึงแม้ว่าจะเป็น หนึ่งปีหนึ่งครั้งก็ตาม"โอริ ฮิเมะ"จึงกลับมา ขยันขันแข็งตั้งหน้าตั้งตา ทำงานทอผ้าของนางต่อเหมือนเดิม..
         และในทุก ๆปี ของวันที่"อามาโน่ คาวา(ทาง ช้างผือก) จะ ออกมาปรากฏบนท้องฟ้านั้น ก็เป็นอันว่า "โอริ ฮิเมะ"และ"ฮิโกโบชิ" ก็จะได้มาพบกันสมดังใจ ปรารถนา..ค่ะ..จบแล้วสำหรับเนื้อเรื่องความเป็นมา Romantic ดีไหมค่ะ..ที่มาของ"ความรักแห่ง ทางช้างเผือก "

たなばたのおねがいごと คำขอพร



 1)  日本語 が上手になりますように        
ขอให้เก่งภาษาญี่ปุ่น
2)  たくさん かんじが かけるようになりますように   
ขอให้เขียนตัวอักษรคันจิได้เยอะๆ
3) 日本語のうりょくしけんに ごうかくできますように  
ขอให้สอบวัดระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่นผ่าน   
4) 日本のはいゆうと話せるようになりますように  
ขอให้ได้พูดกับดาราญี่ปุ่น
5) 日本のゲームが できるようになりますように  
ขอให้แล่นเกมของญี่ปุ่นได้
6) 日本語のまんが が よめるようになりますように  
ขอให้อ่านการ์ตูนภาษาญี่ปุ่นได้
7) 日本に 行けますように      
ขอให้ได้ไปประเทศญี่ปุ่น
8) とうきょうディズニーランドに いけますように  
ขอให้ได้ไปเที่ยวโตเกียวดิสนี่แลนด์                 
9) あたま が よくなりますように   
ขอให้ฉลาดขึ้น                                  
10)  4 が とれますように                
ขอให้เรียนได้เกรด 4
11)  0 が ありませんように              
ขอให้ไม่ติด 0
12)  こうこうをそつぎょうできますように  
ขอให้จบ ม.6
13)  いいだいがくに はいれますように  
ขอให้ให้เข้ามหาวิทยาลัยดีๆได้
14) しぼうだいがくに にゅうがくできますように    
ขอให้เข้ามหาวิทยาลัยที่ใฝ่ฝันได้
15) 留学しきんを(が)もらえますように 
ขอให้ได้ทุนเรียนต่อต่างประเทศ
16) 先生に かわいがってもらえますように  
ขอให้ได้รับความเมตตาจากครู
17) ガイドに なれますように     
ขอให้ได้เป็นไกด์
18) スチュワーデスに なれますように       
ขอให้ได้เป็นแอร์โฮสเตส
19) エンジニアに なれますように   
ขอให้ได้เป็นวิศวกร
20) けんこうで ありますように          
ขอให้มีสุขภาพดี
21) おうさま が けんこうでながいきできますように  
ขอให้พระเจ้าอยู่หัวทรงพระเจริญ
22) りょうしんが けんこうで ありますように 
 ขอให้คุณพ่อคุณแม่สุขภาพแข็งแรง                           
23) かぞく みんなが しあわせで ありますように     
ขอให้ทุกคนในครอบครัวมีความสุข
24) りょうしんのきゅうりょうが あがりますように  
ขอให้คุณพ่อคุณแม่ทำงานได้เงินเดือนเยอะๆ
25) 日本語を つかう しごとが みつかりますように 
ขอให้ได้งานที่ใช้ภาษาญี่ปุ่น
26) せかいじゅうを りょこうできますように  
ขอให้ได้เดินทางรอบโลก
27) たからくじが あたりますように    
 ขอให้ถูกล็อตเตอรี่
28) かいしゃの しゃちょうに なれますように  
ขอให้ได้เป็นประธานของบริษัท
29) 毎年 ボーナスが もらえますように    
ขอให้ได้โบนัสทุกปี
30) おかねもちに なりますように             
ขอให้เป็นเศรษฐี
31) ゆうめいなかしゅ になれますように    
ขอให้ได้เป็นนักร้องที่มีชื่อเสียง
32) ゆうめいなはいゆうに なれますように  
ขอให้เป็นดาราหรือนักแสดงที่มีชื่อเสียง
33) しあわせで ありますように    
ขอให้มีความสุข
34) せかい が へいわに なりますように  
ขอให้โลกมีสันติ


35) タイが へいわで ありますように 
ขอให้ประเทศไทยสงบสุข
36) みんなが なかよく いられますように  
ขอให้พวกเราทุกคนรักกันตลอดไป
37) タイのサッカーチームが ワールドカップ にできることが できますように     
ขอให้บอลไทยได้ไปบอลโลก
38) タイのサッカーチームが ワールドカップのチャンピォン に なれますよう  
ขอให้ทีมฟุตบอลบอลไทยได้เป็นแชมป์โลก
39) ずつとスレンダーで いられますように    
ขอให้หุ่นดี(สเลนเดอร์)ตลอดไป
40) きれいに なりますように                      
ขอให้สวย     
41) ハンサム に なりますように                  
ขอให้หล่อ
42) あたらしいともだち が できますように   
ขอให้มีเพื่อนใหม่
43) おんなのこ に もてますように  
 ขอให้ผู้หญิงมาชอบเยอะๆ                         
44) おとこのこ に もてますように    
ขอให้เป็นผู้ชายมาชอบเยอะๆ
45) にんきものに なりますように         
ขอให้เป็นที่ชื่นชอบของทุกคน
46) きれいな こいびとが できますように   
ขอให้มีแฟนสวย            
47) ハンサムな こいびとが できますように   
ขอให้มีแฟนหล่อ
48) すきなひとと りょうおもい になれますように  
ขอให้มีสัมพันธภาพอันดีกับคนที่เราชอบ
49) 好きな人と ずっといっしょにいられますように   
ขอให้อยู่กับคนรักตราบชั่วนิรันดร์
50) しぶんのよくぼうをコントロールできるようになり
ますように  
ขอให้ชนะใจตนเอง
51) じんせいのせいこうを おさめられますように   
ขอให้ประสบผลสำเร็จ

  

Tuesday, June 19, 2012

モンフォート高校は何がありますか。



モンフォート高校は何がありますか。
ピーター
1かいと2かいに ちゅうがく1ねんせいの きょうしつが あります。
コピーセンターは 1かいに あります。
だんしトイレも 1かいに あります。
じょしトイレは ピーターと セラフィンの あいだに あります。
2かいに ちゅうがく1ねんせいと2ねんせいの しょくいんしつが あります。
3かいに ちゅうがく3ねんせいのきょうしつが あります。
4かいに ちゅうがく2ねんせいのきょうしつが あります。

セラフィン
2かいに こうこう1ねんせいの きょうしつがあります。 
3かいと4かいに コンピューターしつや りかしつ (など)があります

アルバートは 
1かいに ほけんしつが あります。
2かいに こうこう3ねんせいの しょくいんしつと こうこう1ねんせいの きょうしつが あります。
3かいと4かいに こうこう3ねんせいの きょうしつがあります。

アントニオは
1かいに きっさてんと かいぎしつが あります。
2かいに MELCセンターや EPのとしょしつ (など) が あります。
3かいと4かいに きょうしつがあります。



エマニュエルは
1かいに こうこう2ねんせいの きょうしつが あります。
2かいに ちゅうがく3ねんせいと こうこう3ねんせいのしょくいんしつがあります。
3かいに りかしつが あります。
4かいに こうこう3ねんせい のきょうしつ が あります。


宿題文法(ぶんぽう)) ()・2012(ねん) 6(がつ) 19(にち)

セントメアリに 何が ありますか。
日本センターは どこですか。
図書館(としょかん)は どこですか。
食堂(しょくどう)は どこですか。
タム先生のしょくいんしつは どこですか。
ゆかせんせいのしょくいんしつは どこにありますか。
せんせいのちゅうしゃじょうは どこですか。



ちゅうしゃじょう = Car park

Sunday, June 17, 2012

ทุน JASSO

This scholarship is available for student acceptance and student dispatch programs of less than three months by Japanese universities, junior colleges , colleges of technology or specialized training college (hereafter referred to as “Japanese Universities”)

For the 2013-2014 academic year
 ・Monthly stipend: ¥80,000 per month (less than 3 months)
The monthly stipend may change by the budget of financial year 2013.

Recruitment for the academic year 2013-2014 will start after the end of June, 2012.
VISIT: http://www.jasso.go.jp/scholarship/sssv_jasso.html

ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น หรือ Monbukagakusho (MEXT)


เป็นทุนการศึกษาที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้มอบให้แก่นักศึกษาไทยที่สนใจไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นเป็นประจำทุกปี  โดยโครงการมอบทุนการศึกษาได้เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1954 (พ.ศ 2497)  มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศในด้านการศึกษา  วิทยาศาสตร์  และวัฒนธรรม  ด้วยความปรารถนาเป็นอย่างยิ่งที่จะเสริมสร้างความเข้าใจอันดีต่อกัน  และเพื่อกระชับความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่นให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยจะคัดเลือกและเสนอชื่อนักเรียนไทย  เพื่อมอบทุนการ ศึกษาของรัฐบาลญี่ปุ่นให้แก่ผู้ที่มีความประสงค์ไปศึกษาต่อที่ญี่ปุ่น  ทั้งในระดับอุดมศึกษาและในสถานศึกษาชั้นสูงของญี่ปุ่น  ซึ่งแบ่งประเภทของทุนออกเป็น  7  ประเภท  แต่จะแนะนำเพียง  ประเภทที่เหมาะกับนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย  คือ
ระดับปริญญาตรี  (Undergraduate Student)
สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยจะคัดเลือกนักเรียนไทย   เพื่อไปศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่นในฐานะนักศึกษาต่างชาติเป็นประจำทุกปี  ปีละประมาณ 10 ทุน  ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทย  อายุครบ 17 ปีบริบูรณ์  และไม่เกิน 22 ปี  สำเร็จหรือกำลังจะสำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย  ตามหลักสูตรการศึกษา 12 ปี  ระยะเวลารับทุนการศึกษา 5 ปี  และ 7 ปี  สำหรับคณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์  (รวมระยะเวลาศึกษาภาษาญี่ปุ่น 1 ปี)
QUALIFICATIOS
(1) NationalityThai nationality.
(2) Age17 to 21 years old as of April 1, 2013
(3) Academic Background:  completed a 12-year regular course
(4)  Academic Records (GPA):
4.1) more than 3.80
4.2) More than 3.30 for Level 1/N1 and Level 2/N2 and  More than 3.50 for Level 3/N3 and N4
2. ทุนญี่ปุ่นศึกษา  (Japanese Studies Student)
     สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยคัดเลือกนักเรียนไทย    เพื่อไปศึกษาแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่นในฐานะนักศึกษาต่างชาติ  เพื่อไปเพิ่มพูนทักษะความรู้ภาษาญี่ปุ่น  และศึกษาวัฒนธรรมสภาพสังคมเป็นประจำทุกปี  ปีละประมาณ 5 ทุน  ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทย  อายุครบ 18 ปีบริบูรณ์  และไม่เกิน 30 ปี  กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยในประเทศไทย  และศึกษาภาษาญี่ปุ่นหรือวัฒนธรรมญี่ปุ่นเป็นวิชาเอก  ระยะเวลารับทุนการศึกษา 1 ปี
Documents
Application (by the prescribed form)  = (1 original)
Admission Form (by the prescribed form) = (1 original)
Photographs = (3 photographs)
Academic transcript for certified school records of the past 3 years = (1 original)
Certificate of enrollment = (1 original)
Test Result or Certificate of Japanese Language Proficiency = (1 copy)
Letter of Agreement by parents with their signature = (1 original)

MEXT ให้อะไรบ้าง?
MEXT เป็นทุนให้เปล่าโดยสนับสนุน
ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ 
ค่าใช้จ่ายเมื่อเดินทางไปถึงญี่ปุ่น 
*ค่ารักษาพยาบาล 
ได้รับการยกเว้นค่าเล่าเรียน 
**เงินเดือนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือน 

แนวข้อสอบเป็นอย่างไร?
1. สอบข้อเขียน
แนวข้อสอบข้อเขียนคำถามจะเป็นภาษาอังกฤษ แบ่งเป็นสองส่วน
1.             Reading ( 25 items)
2.             Grammar (20 items)
3.             Vocabulary (5 items)
* นอกจากนั้นก็จะมีการสอบตามสาขาวิชาอื่นๆเพิ่มเติม เช่น คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ

2. สอบสัมภาษณ์
การสอบสัมภาษณ์ไม่ยาก ตอบเป็นภาษาอังกฤษหรือญี่ปุ่น ให้เราอธิบายถึงเรื่องที่เราจะไปเรียนและถามเรื่องทั่วๆ ไป เรื่องที่เคยเรียนมาที่โรงเรียน เรื่องการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า การกำหนดสถานการณ์ การวางแผน (จุดนี้จะทดสอบไหวพริบและการรูปจักการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า)

นักเรียนควรเตรียมตัวอย่างไร?
                เตรียมตัวมาโดยการอ่านข่าว ฟังข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์โลกในปัจจุบันในรอบปีที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่เด่นๆในโลก กลับไปทบทวนความรู้วิชาสังคมศาสตร์สมัยมัธยมต้น ดูหนังสือเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นหรือดูในเวปนี้ก็ดี http://embjp-th.org แล้วจดโน้ตเรื่องที่ควรจำไว้ หรือเข้ามาดูข่าวปัจจุบันเกี่ยวกับญี่ปุ่นในเวปเดียวกันนี้

การเลือกมหาวิทยาลัยควรเลือกอย่างไรดี?
1. หาเหตุผลและคำตอบที่ชัดเจนในการไปศึกษาต่อต่างประเทศ
#แรงจูงใจที่เกิดจากเป้าหมายในอาชีพ  หรือลักษณะงาน  ความน่าสนใจในเนื้อหาวิชาที่จะเรียน
#สิ่งที่สนใจเป็นพิเศษ
#ความต้องการบุคลากรในตลาดแรงงาน
              เช่น ถ้าต้องการค้นคว้าในเรื่องเจาะจงเฉพาะทาง  ก็ควรสมัครเรียนในมหาวิทยาลัยที่มีคณะหรือภาควิชาที่เปิดสอนในวิชาที่สนใจ  หรือหากสนใจที่จะหาประสบการณ์จริงในวงการธุรกิจ ก็ควรเลือกเรียนในมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ใกล้ย่านธุรกิจหรือในตัวเมืองสำคัญทางการค้าใหญ่ๆ 
  
2. การประเมินตนตามความเป็นจริงในเรื่องของความสามารถ
# เรียนเก่งหรือไม่?  เป็นคนขยันหรือขวนขวายหรือไม่?
# เกรดเฉลี่ยที่ผ่านเป็นอย่างไรบ้าง?
# มีประสบการณ์การทำงาน  หรืองานค้นคว้าวิจัยที่เกี่ยวข้องกับสาขาต้องการเรียนหรือไม่?
# เคยมีประสบการณ์ร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสาขาที่อยากเรียนต่อหรือไม่?
          สำหรับนักเรียนที่ได้เกรดเฉลี่ยสูงจะมีโอกาสในการเลือกสมัครเข้ามหาวิทยาลัยได้มากกว่านักเรียนที่ได้เกรดเฉลี่ยระดับกลางๆ  ซึ่งอาจจะสามารถสมัครในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในอันดับต้นๆได้   โดยไม่ติดขั้นในเรื่องของเกรดเฉลี่ย  แต่สำหรับนักเรียนที่มีเกรดเฉลี่ยระดับกลางก็ควรเลือกสมัครมหาวิทยาลัยที่อยู่ในระดับกลางๆ  เพราะจะมีโอกาสมากกว่า  

3. การค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมในสาขาที่ต้องการจะเรียน
# นักเรียนเคยได้คุยกับอาจารย์  หรือได้อ่านบทความในหนังสือพิมพ์ในสาขาที่นักเรียนจะเรียนหรือสาขาอื่นๆหรือไม่          
การศึกษาต่อในต่างประเทศนั้นแตกต่างจากการเรียนต่อในบ้านเรา  ในเรื่องของระบบที่ค่อนข้างยืดหยุ่น  นักศึกษาสามารถเลือกหลักสูตรที่มุ่งเน้นโดยตรงและเจาะจงไปในตัววิชาที่ยักเรียนมีความสนใจ

ต่อไปจะต้องทำการหาข้อสรุปในการเลือกมหาวิทยาลัย
1. หาหลักสูตรที่เปิดสอน   เช่น  BA , BS , MS , MBA , MA , Ph.D ., etc  ยิ่งหลากหลายก็ยิ่งแสดงว่ามหาวิทยาลัยนั้นมุ่งเน้นทางด้านสายวิชานั้นๆ
2. หาจุดเด่นของตัว  Program  ที่เป็นสายเฉพาะทาง
3. ดูอันดับ  Ranking  ของมหาวิทยาลัย
4. ระยะเวลาที่เรียนของหลักสูตรนั้นๆ
5.  พิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขจำนวนนักศึกษาต่างชาติที่กำลังเรียนอยู่  หรือดูค่าโดยประมาณ  

จากหลักในการเลือกสถาบันหรือมหาวิทยาลัยข้างต้น นักเรียนลองเลือกมหาวิทยาลัยมาสัก 10 ที่  แล้วลองพิจารณาดูว่าที่ไหนมีคุณสมบัติตามเกณฑ์มากที่สุด  และนักเรียนมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่สถาบันกำหนดไว้หรือไม่  แล้วค่อยตัดตัวเลือกอื่นๆที่ได้ตามเกณฑ์น้อยที่สุดออกไป  การเลือกมหาวิทยาลัยที่เหลือก็จะง่ายมากขึ้น 

ตัวอย่างข้อสอบ MEXT

นักเรียนสามารถดาวโหลดไฟล์ข้อสอบชิงทุนรัฐบาลญี่ปุ่นได้แล้วที่

MEXT EXAM 2007-2010

อยากให้นักเรียนลองทำดู และหากข้อไหนทำไม่ได้ให้ไปปรึกษาคุณครูหรือมาสเตอร์ในสาขาวิชาๆนั้นๆ

แค่นี้ นักเรียนก็จะได้ทั้ง คำตอบและความรู้ไปพร้อมๆกัน

-ยิ่งเตรียมตัวมากเท่าไหร่ โอกาสก็จะมาอยู่ใกล้เรามากเท่านั้น-